กระเจี๊ยบ (Roselle)

ค็อกเทล น้ำกระเจี๊ยบ (Roselle Cocktail)

วันนี้จะมานำเสนอ ค็อกเทลรสชาติไทยๆ กันบ้างนะครับ โดยจะนำ ดอกกระเจี๊ยบ ชื่อกันว่าหลายต่อหลายคนก็อาจจะเคยได้ทานกันแล้ว ซึ่งจะช่วยในการดับกระหายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว มาใช้ เป็นส่วนผสม

รสชาติของดื่มจะออกเปรี้ยว ดื่มสบายๆ สดชื่น เหมาะกับบ้านเราซื่งเป็นเมืองร้อน ได้ดีที่เดียวเลย

ส่วนผสม

​Vodka                    40 ml

Cherry herring      10 ml

Chambord             10 ml

Angostura bitter   4-5 หยด

ดอกกระเจี๊ยบ         4 ดอก

ขั้นตอนการทำ ก็เทส่วนผสมทั้งหมด ลงใน Cocktail Shaker แล้วก็เชค ส่วนผสมให้เข้ากัน เสริฟด้วยแก้ว มาทินี่  หรือ เลือกเองได้ตามชอบเลยนะครับ 

ลองทำกันดู หวังว่าเพื่อนๆคงชอบดื่มนี้กันนะครับ 
 

Mojito (โมฮีโต้)

ไม่ได้มาอับเดท blog สักพัก เพราะช่วงนี้มีงานยุ่งๆ เลยไม่ค่อยมีเวลา หลังจาก ที่ ได้แนะนำ อุปกรณ์ และ ส่วนผสม คร่าวๆ ในการทำ Cocktail บ้างแล้ว  วันนี้เราจะมาเริ่มแนะนำ สูตร ค็อกเทล ดีๆ กันบ้าง เดี๋ยวจะเบื่อ กัน โดย Cocktail ที่เลือกมา จะเลือก แบบ สุ่ม ไปเรื่อยๆ ตาม ความชื่นชอบของ ส่วนตัว ผู้เขียน เอง (คิดว่าผู้อ่านก็คงชอบเช่นกัน เพราะ ดื่มส่วนใหญ่ที่จะเลือกมานำเสนอ เป็นดื่มที่ ทำได้เอง หาซื้อวัตถุดิบ ง่ายๆ ได้ตามท้องตลาดทั่วไป) 

เนื่องจาก อากาศร้อนๆ แบบเมืองไทย นั่งชิวๆ จิบ Mojito (โมฮีโต้) เบาๆ ที่บ้านหรือ ริมทะเล เย็นๆ วันเสาร์ สบายๆ ก็คงจะมีความสุข ไม่เบา ใช่ไหม สำหรับบางคนที่ดื่ม Cocktail มาบ้างก็คงจะรู้จัก Mojito ว่ารสชาติ เป็นยังไง แต่ในที่นี่ เราจะแนะนำ ให้กับ คนที่ไม่เคย รู้จักดื่ม ชนิดนี้มาก่อนก็แล้วกันนะครับ 

Mojito (โมฮีโต้)

Mojito จัดอยู่ในค็อกเทลคลลาสสิคชนิดหนึ่ง เป็นเครื่องดื่มจากประเทศ คิวบา มันเกิดที่บาร์ใน ฮาวานา (Havana) ด้วยส่วนผสมที่มีเพียง ใบสะระแหน่ มะนาว น้ำตาลและ Rum เลยเป็นที่นิยมในการสั่งมาดื่มเพื่อดับกระหายในวันที่อากาศร้อน รสชาติของ Mojito  (โมฮีโต้)  ก้จะมีรสชาติ คล้้ายๆ น้ำมะนาว เปรี้ยวๆ หวานๆ หอมมินต์ ดื่มแล้วรู้สึก สดชื่นมากๆ 

ส่วนผสมของ Mojito

            ใบสาระแน่ประมาณ 10 ใบ

            มะนาวครึ่งลูก หั่นเป็น 4 เสี่ยว

            น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
รัม Havana Club 1 ½ ออนซ์
น้ำโซดาครึ่งแก้ว
น้ำแข็งป่นเต็มแก้ว
น้ำโซดาครึ่งแก้ว
น้ำแข็งป่นเต็มแก้ว

ขั้นตอนการปรุง:

1. ใส่มะนาว น้ำตาล และใบมินต์ลงในแก้ว cococktail ที่เตรียมไว้ แนะนำ ให้เป็น แก้ว highball (ถ้าไม่รู้จัก ลองย้อนกับไปดูในบทความเก่าๆได้นะครับ) แล้วตำ ให้เข้ากัน ไม่ต้องละเอียดมาก เดี๋ยวจะขม ใบมิ้น  ตำ พอให้มะนาวมีน้ำออกมาก็พอ

2. จากนั้นก็ใส่ รัม Havana Club แล้ว คนให้ส่วนผสมเข้ากัน

3. ใส่น้ำแข็งให้เต็มแก้ว แล้วเอาโซดา ใส่จนเต็มแก้ว 

4. ตกแต่งด้วยมะนาวฝาน เชอรี่เชื่อมและ ใบมินต์ อันนี้แล้วแต่ชอบเลย

แค่นี้ก็เสร็จแล้ว ทำไม่ยากเลยใช่ไหมครับ แต่ สำหรับ ดื่ม mojito นั้น สามารถทำได้หลายรสชาติ เช่น สตอเบอรี่ แอ็ปเปิ้ล ก็จะมีส่วนผสมคล้ายๆกัน  เดี๋ยวจะนำมาเสนอใน คราวหน้า นะครับ  

                  

แก้วค็อกเทลขนาดต่างๆ

แก้วค็อกเทลที่เห็นๆก็มีอยู่หลายแบบ ส่วนมากก็จะเน้นรูปทรงที่สวยงาม  เน้นเนื้อแก้วที่ใส ดี และ เป็นประกาย  ถ้าจะแบ่งเป็น ก็แบ่งได้ 5 ประเภทด้วยกัน คือ

1. ทัมเบลอ ( Tumbler ) หรือ แก้วทรงกระบอกธรรมดา เป็นแก้วไม่มีก้าน หรือ เชิง รูปร่างเหมือนกระบอก ข้างแก้วอาจจะตรง ผายออก คุ้มเข้า หรือ คอดก็ได้ มีขนาดและความสูงต่างๆ กัน มีอยู่หลายขนาดด้วยกัน แต่ละขนาดจะมีชื่อเรียกเฉพาะอีกด้วย 

- ช็อตกลาส ( Short Glass ) ความจุ 2 ออนซ์

- โอลด์แฟชั่น (Old Fashioned) หรือ ร๊อคกลาส (Rock Glass) ความจุ 7.1/4ออนซ์

- ไฮ-บอล ( High-ball ) ความจุ 9 ออนซ์

- คอลลินส์ ( Collins ) ความจุ 12 ออนซ์

- คูลเลอร์ ( Cooler ) ความจุ 16 ออนซ์

- ซอมบี้ ( Zombie ) ความจุ 13 ½ ออนซ์

- ฟิลสเนอร์ หรือ อาว กลาส ( Pilsner or Hour glass ) ความจุ 10 ออนซ์

2. Stemmed glass แก้วก้าน แก้วประเภทนี้ นอกจากจะมีส่วนตัวแก้วที่ใช้ใส่เหล้าแล้ว ยังมีก้านยาวเหมือนก้านดอกไม้ สุดก้านก็จะมีเชิงเป็นแผ่นกลม นูนเล็กน้อย เพื่อให้ตั้งได้ มีรูปร่างหลายแบบด้วยกัน เอให้ถูกกับวัตถุประสงค์ของการใช้ แต่ละรูปร่างก็กำหนดไว้เพื่อใช้สำหรับเหล้าแต่ละชนิดไป ไวน์ส่วนมากนิยมเสิร์ฟในแก้วก้าน มีรูปร่างต่างๆ กัน ดังนี้

- ค๊อกเทล กลาส ( Cocktail glass ) ความจุ 5. ¼ ออนซ์

- ซาวกลาส ( Sour glass ) ความจุ 5. ½ ออนซ์

- มาร์การิต้า กลาส ( Margarita glass ) ความจุ 5 ออนซ์

- ฟลูตแชมเปญ กลาส ( Flute Champagne ) ความจุ 6 ออนซ์

- แชมเปญ ซอสเซอร์ ( Champagne Saucer ) ความจุ 6.12  ออนซ์

- แก้วไวน์อเนกประสงค์ ( All - Purpose Wine ) ความจุ 8.14 ออนซ์

- ลิเคียว หรือ บรั่นดี ( Liqueur or Brandy ) ความจุ 2 ออนซ์

3. Footed Glass  หรือ  แก้วเชิง  มีลักษณะคล้ายๆกันกับแก้วก้าน เพียบแต่ก้านนั้นสั้น เพราะส่วนก้านมีความประสงค์เยบเพื่อเป็นตัวเชื่อมส่วนตัวแก้วกับเชิงที่ตั้ง เพื่อความสวยงามของแก้วเท่านั้น มิได้ทำไว้เพื่อให้จับหรือถือแก้วตรงส่วนนั้น เหล้าผสมหรือค๊อกเทลส่วนใหญ่นิยมเสิร์ฟในแก้วเชิงนี้พอๆ กับเสิร์ฟในแก้วก้าน มีตัวอย่างดังนี้

- ร๊อค กลาส ( Rock glass ) ความจุ 7 ออนซ์

images

- เบียร์ กลาส ( Beer glass ) ความจุ 10 ออนซ์

- บรั่นดี สนิปเตอร์ กลาส ( Brandy Snifter glass ) ความจุ 12 ออนซ์

- เฮอริเคน กลาส ( Herricane glass ) ความจะ 22 ออนซ์

4. เหยือกเบียร์ ( Mug ) รูปร่างคล้ายกับแก้วก้านทรงกระบอกส่วนใหญ่จะหน้าและมีหูคล้ายถ้วยกาแฟ มีความจุระหว่าง 10 – 16 ออนซ์

5. แก้วแฟนซี หมายถึง แก้ว หรือ เหยือก ที่ทำรูปร่างแตกต่างจากแก้วที่กล่าวถึงแล้ว เพื่อใช้เฉพาะแห่ง อาจทำจากแก้ว หรือ เครื่องเคลือบดินเผา หรือ อื่นๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเสิร์ฟค๊อกเทลบางตำรับในผลของผลไม้บางอย่างด้วย เช่น สัปปะรด / มะพร้าวอ่อน / มะพร้าวแก่ และ แตงโม เป็นต้น

เห็นได้ว่าแก้วค็อกเทลมีให้เลือกใช้เยอะจริงๆ ซึ่งแก้วแต่ละชนิดก็จะมีวิธีใช้และเหมาะกับประเภทของดื่มต่างกันไป แต่ถ้าเราทำดื่มเองที่บ้านก็ใช้แก้วที่เรามีอยู่แล้วที่บ้านหรือชอบก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีแก้วตามสูตรเป๊ะ ขอให้รสชาติอร่อยก็พอ (อันผิดถูกไม่รู้ เป็นความคิดของผู้เขียนเอง) 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมค็อกเทลที่สำคัญ

อุปกรณ์ในการทำค็อกเทลจริงๆแล้วมีหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความต้องการและถนัดของผู้ใช้ แต่ที่จะนำมาทำความรู้จักในวันนี้ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญพื้นฐานทั้งสิ้น

มาเริ่มกันเลยดีกว่า......

Cocktail Shaker

ชิ้นแรกนี่ถือว่าเป็นพรเอกของการทำค็อกเทลเลยก็ว่าได้ มีหน้าที่เอาไว้เชคส่วนผสมต่างๆให้เข้ากัน ที่เห็นกันและนิยมใช้โดยทั่วๆไปก็จะมีอยู่ 2 แบบ คือ Cobbler shaker แบบที่ทำจาก โลหะผสม(Metal)ทั้งใบ ซึ่งประกอบด้วยกัน 3 ชิ้นตามชื่อ คือ ส่วนหัว ส่วนที่เป็นตัวกรอง และส่วนตัว ชนิดที่นิยมใช้กันมากเพราะสะดวก ใช้ง่าย และ ชนิดที่ 2 เรียกว่า Boston shaker คือครึ่งหนึ่งเป็นแก้ว ครึ่งหนึ่งเป็นโลหะผสม สำหรับคนที่ไม่เคยใช้เชคเกอร์ชนิดนี้จะรู้สึกว่าใช้ลำบาก ต้องมีความชำนาญในการใช้เล็กน้อย ส่วนมากจะใช้มากในการแข่งขันทำค็อกเทล เนื่องจากต้องการโชว์ความชำนาญและความสวยงาม 

ไม่ว่าจะเลือกใช้ตัวไหน ก็ให้ความสามารถในการผสมค็อกเทล ไม่ต่างกัน แต่ที่สำคัญต้องมั่นใจว่ามันใหญ่พอที่จะใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปได้นะครับ ไม่งั้นหกไปเสียดายแย่เลย 

Bar Spoon 

จะมีความสำคัญและใช้บ่อยกับดื่มที่ต้องคนให้เข้ากันโดยไม่ใช้ที่เชค เช่น Mojito จะมีลักษณะเล็กและยาว ตามรูป 

Strainer อุปกรณ์ช่วยในการกรอง 

ตัวกรองนี้มีประโยชน์มากกับค็อกเทลที่ใช้วิธี คน ( Stir ) และเชคเกอร์ชนิด 2 ชั้น เพราะเชคเกอร์ ชนิดนี้ไม่มีอุปกรณ์ช่วยกรองในตัว 

Jigger / Meassuring cup ถ้วยตวง 

เพื่อให้เครื่องดื่มมีรสชาติที่ได้มารตฐานตามสูตรอย่างไม่ผิดเพี้ยน ถ้วยตวงจึงมีความสำคัญมากในการทำค็อกเทลของผู้เริ่มต้น (แต่สำหรับผู้ที่ชำนาญแล้วจะมีวิธีในการตวงที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะยังไม่พูดถึง ณ. ตอนนี้) เจ้าหน้าตาของ ถ้วยตวงก้จะมีอยู่หลายแบบ แต่การใช้งานก็เหมือนกันนครับ 

Blend เครื่องปั่น 

ใช้สำหรับปั่น เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นชิ้น เช่น ผลไม้ 

อุปกร์ที่พูดมาทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนหลักๆ ที่ผู้เขียนเองคิดว่าสำคัญ แต่ก็ยังมีอุปกรณ์อีกหลายอย่าง เช่น อุปกรณ์คั้นน้ำ ผลไม้ที่มีทั่งใช้มือและใช้ไฟฟ้า มีด ที่เปิดขวดน้ำอัดลม และที่ลืมเสียมิได้ คือ ที่คีบน้ำแข็ง

ก่อนที่เราจะเริ่มทำค็อกเทล สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือชนิดของเหล้าต่างๆที่ใช้ในการ ชงค็อกเทล
ประเภทและชนิดของเหล้าที่จะนำมาใช้

วิสกี้ (Whisky)
- วิสกี้ถือว่าเป็นเหล้าพื้นฐานในการทำค็อกเทลเลยก็ว่าได้ โดยทำมาจากข้าวนำมาหมักแล้วเอาไปบ่มกลั่นอีกที มีขายตามท้องตลาดทั่วไป หาซื้อไม่ยากครับ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ มีตั้งแต่ขวดละร้อยกว่าบาทไปจนถึงหลักหมื่น ยกตัวอย่างเช่น แม่โขง กับ Red Label ซึ่งรสชาติก็จะตากต่างกันไป อันนี้ก็แล้วแต่ชอบเลยครับ

บรั่นดี และ บรั่นดีผลไม้ (Brandy & Fruit Brandy)
- บรั่นดีนั้นจะทำมาจาก ไวน์(องุ่น) ที่เอาไปกลั่นจนเป็นบรั่นดี จากนั้นนำไปบ่มต่ออีกทีครับ ราคามีตั้งแต่หลักร้อย เช่น รีเจนซี่ ไปจนถึงหลักหมื่นเช่นพวก คอนยัค(Cognac) ส่วนบรั่นดีผลไม้นั้นก็คือบรั่รดีที่ทำมาจากผลไม้อื่นๆที่ไม่ใช่องุ่น ครับ..

ว็อดก้า (Vodka)
- โดยทั่วไปของ ว็อดก้า จะเป็นเหล้าที่ใสไม่มีสี และมีกลิ่นเล็กน้อยเท่านั้น หาได้ไม่ยาก ราคามีตั้งแต่ขวดละ 200 กว่าบาทไปจนถึง ราวๆ 1,500 ครับ *ผมว่าขวดละ 5 – 700 ก็ OK แล้วนะ..

ตากีล่า (Tequila)
- ตากีล่า เป็นเหล้าที่มีกลิ่นค่อนข้างแรง นิยมกันมากใน เม็กซิโก ส่วนมาก ตากีล่าจะใสไม่มีสี แต่ตากีล่าบางชนิดจะนำไปบ่มในถังไม้จะได้เป็นตากีล่าที่มีสีเหลืองซึ่งราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย ส่วยราคาทั่วไปของตากีล่า จะอยู่ที่ 350 – 1,000 ครับ *แนะนำให้ใช้ของดีหน่อยเพราะเหล้าตัวนี้เน้นที่กลิ่นครับ

จิน (Gin)
จิน เป็นเหล้าใสไม่มีสี(ที่เห็นสีฟ้านั่นสีของขวดนะครับ) ทำมาจาก ข้าว และ สมุนไพร และกลิ่นของผล Juniper ราคาทั่วไปในบ้านเราเริ่มตั้งแต่ราวๆ 300 – 900 ครับ (ส่วน Gin อันนี้ผมว่าใช้แบบราคา 3 – 400 ก็ OK แล้วครับ)

รัม (Rum)
- รัม เป็นเหล้าที่ผลิตจาก อ้อย หรือ กากน้ำตาล แบ่งได้เป็น รัมขาว(White Rum), รัมทอง(Gold Rum) และ รัมดำ(Dark Rum) ครับโดยที่สีและกลิ่นจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ราคาทั่วไปจะเริ่มที่ราว 300 - 700 ครับ *แสงโสม ของไทยเนี่ย จัดเป็น รัมทองนะครับ

แอพเพอริทิฟ (Aperitif)
- แอพเพอริทิฟ จัดอยู่ในประเภทเหล้ายา สมัยก่อนปกติมักนิยมดื่มก่อนหาหาร ทำจาก เหล้า เหล้าองุ่น เครื่องเทศ และสมุนไพรต่างๆ แบ่งได้หลักๆเป็น 3 ประเภทคือ เวอร์มุท(Vermouth), บิตเตอร์(Bitter), อนิส(Anis) ราคามีตั้งแต่ 300 - 1000 ครับ

เหล้าหวาน (Liqueur)
- เหล้าหวานจะเป็นการนำเอาตัวเหล้ามาปรุงแต่งใหม่ โดยเพิ่มตวามหวาน สี กลิ่น รส ลงไป โดยที่ สิ่งปรุงแต่งนี้จะนำมาจาก สมุนไพร หรือ เครื่องเทศ ต่างๆ มีหลายชนิดมาก ราคาทั่วไปมีตั้งแต่ 250 – 600 ครับ
*แนะนำว่าเหล้าหวานที่ชื่อ บลู คูราโซ่ (Blue Curacao) ควรมีไว้ครับ เพราะใช้บ่อยมาก

ส่วนผสมอื่นๆ
นอกจากตัวเหล้าแล้ว การทำ ค็อคเทล หลายๆตัว ยังต้องใช้ส่วนผสมอื่นๆด้วยนะครับ..
ส่วนผสมหลักที่ควรมีติดบ้าน - โซดา - น้ำส้ม,น้ำสับปะรด,น้ำมะนาว - น้ำเชื่อม(สามารถทำเองได้ดดยผสม น้ำ : น้ำตาลทราย ในปริมาตร 2.5 : 6 ตั้งไฟให้เดือดราว 2 - 3 นาทีครับ) - น้ำเชื่อมกลิ่นทับทิม - น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นต่างๆ